รีวิวหนัง The Omen (1976) อาถรรพ์หมายเลข 6

รีวิวหนัง The Omen (1976) อาถรรพ์หมายเลข 6
รีวิวหนัง The Omen (1976) อาถรรพ์หมายเลข 6

ชื่อหนัง: The Omen (อาถรรพ์หมายเลข 6)
ปีที่ฉาย: 1976
หมวดหมู่: สยองขวัญ, ลึกลับ, ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: ริชาร์ด ดอนเนอร์ (Richard Donner)
ความยาว: 111 นาที
วันเข้าฉาย: 6 มิถุนายน 1976 (สหรัฐอเมริกา)
คะแนน IMDb: 7.5/10

นักแสดง:

  • เกรกอรี เพ็ก (Gregory Peck) รับบท โรเบิร์ต ธอร์น
  • ลี เรมิก (Lee Remick) รับบท แคเธอรีน ธอร์น
  • ฮาร์วีย์ สตีเฟนส์ (Harvey Stephens) รับบท เดเมียน
  • เดวิด วอร์เนอร์ (David Warner) รับบท คีธ เจนนิงส์

เรื่องย่อ

The Omen เป็นเรื่องราวของ โรเบิร์ต ธอร์น (Gregory Peck) นักการทูตสหรัฐฯ ที่ได้รับข้อเสนอจากนักบวชลึกลับให้รับทารกชายมาเลี้ยงโดยที่ภรรยาของเขาไม่รู้ตัว เพราะลูกชายแท้ ๆ ของพวกเขาเสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด โรเบิร์ตตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่า เดเมียน (Harvey Stephens) และเลี้ยงดูเขาเป็นลูกชายของตน

เมื่อเดเมียนโตขึ้น เหตุการณ์ประหลาดเริ่มเกิดขึ้นรอบตัวเขา ไม่ว่าจะเป็น พี่เลี้ยงแขวนคอตัวเองกลางงานวันเกิด, นักบวชเตือนถึงคำทำนายลึกลับแต่กลับเสียชีวิตอย่างโหดร้าย, ไปจนถึง นักข่าวที่ถูกกระจกตัดหัวขาด โรเบิร์ตเริ่มสงสัยว่าลูกชายของเขาอาจไม่ใช่เด็กธรรมดา

หลังจากสืบหาความจริง โรเบิร์ตพบว่า เดเมียนมีหมายเลข 666 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของซาตานประทับอยู่บนร่างกาย และเขาอาจเป็น บุตรแห่งปีศาจ เมื่อความจริงถูกเปิดเผย โรเบิร์ตต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต—เขาจะปกป้องลูกบุญธรรมของเขาหรือจะทำลายสิ่งชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ในร่างเด็กคนนี้

รีวิว

The Omen (1976) เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกที่ได้รับการยกย่อง หนังเรื่องนี้สร้างความหลอนจากบรรยากาศ ความกดดัน และการค่อย ๆ เปิดเผยปริศนาเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเดเมียน

เกรกอรี เพ็ก ถ่ายทอดบทบาทของโรเบิร์ต ธอร์นได้อย่างยอดเยี่ยม เขาสื่อให้เห็นถึงความขัดแย้งทางอารมณ์ของชายที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่ของพ่อและภารกิจอันน่าหวาดกลัว ขณะที่ ฮาร์วีย์ สตีเฟนส์ ในบท เดเมียน แสดงความไร้เดียงสาแต่กลับแฝงไปด้วยความลึกลับและน่ากลัว

อีกหนึ่งจุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ ฉากการตายที่เป็นตำนาน เช่น ฉากกระจกตัดหัว, พี่เลี้ยงแขวนคอ, และนักบวชถูกเหล็กเสียบ ทุกฉากถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ทำให้เป็นฉากที่ตราตรึงใจผู้ชมมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ซาวด์ประกอบอย่าง “Ave Satani” ก็เพิ่มความสยองให้กับหนัง ดนตรีที่ฟังคล้ายบทสวดของลัทธิซาตาน ทำให้ทุกฉากเต็มไปด้วยบรรยากาศสุดขนลุก

โดยรวมแล้ว The Omen เป็นหนังสยองขวัญที่เต็มไปด้วยความกดดันและการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาด แม้จะไม่มี Jump Scare มากมาย แต่บรรยากาศที่น่ากลัวและการแสดงที่ยอดเยี่ยมทำให้หนังเรื่องนี้ยังคงเป็นหนึ่งในหนังแนวซาตานที่ดีที่สุดตลอดกาล