
- ชื่อหนัง: KPop Demon Hunters
- ปีที่ฉาย: 2025
- หมวดหมู่: แอนิเมชัน / มิวสิคัล / แอ็กชัน-แฟนตาซี / คอมเมดี้
- ผู้กำกับ: Maggie Kang และ Chris Appelhans
- ความยาว: 100 นาที (บางแหล่งระบุ 95‑100 นาที)
- วันเข้าฉาย: 20 มิถุนายน 2025 ทาง Netflix (ทั่วโลก)
- คะแนน IMDb: 7.9/10
- นักแสดง (พากย์เสียง):
- Arden Cho (Rumi)
- May Hong (Mira), Ji‑young Yoo (Zoey)
- Ahn Hyo‑seop (Jinu), Byung‑hun Lee (Gwi-Ma)
- Yunjin Kim (Celine), Daniel Dae Kim (Healer Han), Ken Jeong (Bobby) ฯลฯ
เรื่องย่อ
Huntrix คือเกิร์ลกรุ๊ป K-pop ชื่อดังที่ดำเนินชีวิตด้วยภาพลักษณ์แฟลชซีบนเวที… แต่เมื่อเสียงร้องกลายเป็นอาวุธ พวกเธอก็กลายเป็นนักฆ่าปีศาจผู้ปลุก Honmoon – เกราะป้องกันวิญญาณมนุษย์จากเผ่าพันธุ์ชั่วร้าย
แต่เมื่อเพลงใหม่ “Golden” ปล่อยออกมา Rumi หัวหน้าวง กลับสูญเสียเสียงของเธออย่างน่าตกใจ พร้อมหายตัวไปจากเวที ความลับเปิดเผยว่าหญิงสาวคนนี้คือครึ่งปีศาจที่ต้องรับชะตากรรมจากสายเลือดของพ่อ
การเผชิญหน้าสุดท้ายเกิดขึ้นในเวที Idol Awards เมื่อ Huntrix ปะทะกับ Saja Boys — บอยแบนด์ปีศาจนำโดย Jinu ผู้เคยเป็นมนุษย์มาก่อน เรื่องราวคลี่คลายด้วยการต่อสู้ผ่านบทเพลง ขับเคลื่อนบททดสอบใจ ความกลัว และการยอมรับตัวเอง จน Honmoon ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง
รีวิว
KPop Demon Hunters คือการผสมผสานที่ครีเอทีฟของโลก K-pop และแอ็กชันแฟนตาซีที่หาดูยากในภาพยนตร์แอนิเมชัน การออกแบบภาพและโทนเรื่องได้รับอิทธิพลจากก่อนแดนซ์เพลงจีน–ดราม่า ผนวกกับสไตล์ของภาพยนตร์แนว Spider-Verse แต่ยังคงอัตลักษณ์ตะวันออก – ตามคำเผยของผู้กำกับ
เพลงในเรื่องจัดว่า “บาดใจ” และมีพลัง ดึงดูดใจผู้ฟัง ทั้งต้นฉบับและพากย์เสียงจริง Arden Cho, Ahn Hyo-seop, May Hong และ Ji-young Yoo ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ยอดเยี่ยม จึงสัมผัสถึงทั้งฉากร้องและตอนต่อสู้/ดราม่า ได้อย่างครบถ้วน
ด้านเนื้อเรื่อง แม้จะเรียบง่าย และบางจุดอาจถูกมองว่าพล็อต “สะดวกเกินไป” แต่จุดแข็งคือ อารมณ์และความรู้สึกของ Rumi ขณะต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงภายใน และการค้นหาความหมายของความเป็นมนุษย์ การเลือกเพลงกลางเรื่องเป็นทั้งบทบรรยายและอาวุธ ทำให้อินกับตัวละครและการต่อสู้มากกว่าภาพที่เห็น
สรุปแล้ว KPop Demon Hunters เป็นเรื่องที่ สายชอบเพลง K-pop, แอนิเมชันสวย, ดราม่าแนวแฟนตาซี และผู้ชมทั่วไปที่เปิดใจให้ความแปลกใหม่ ย่อมได้สนุกกับภาพ เพลง และตัวละครอย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งแอนิเมชันที่ “คุ้มค่า” สำหรับคนที่อยากดูอะไรกระชากอารมณ์ เข้มข้น และแหวกไม่เหมือนใคร