รีวิวซีรีส์ The Last of Us Season 2 (2025) เดอะลาสต์ออฟอัส ซีซั่น 2

รีวิวซีรีส์ The Last of Us Season 2 (2025) เดอะลาสต์ออฟอัส ซีซั่น 2
รีวิวซีรีส์ The Last of Us Season 2 (2025) เดอะลาสต์ออฟอัส ซีซั่น 2
  • ชื่อหนัง: The Last of Us  เดอะลาสต์ออฟอัส
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: ดราม่า / ผจญภัย / ระทึกขวัญ / ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: Craig Mazin, Neil Druckmann
  • ความยาว: 7 ตอน (ตอนละประมาณ 50–85 นาที)
  • วันเข้าฉาย: 13 เมษายน 2025 (ทาง HBO)
  • คะแนน IMDb: 8.8/10
  • นักแสดง:
    • Pedro Pascal รับบท โจเอล มิลเลอร์
    • Bella Ramsey รับบท เอลลี่ วิลเลียมส์
    • Kaitlyn Dever รับบท แอบบี้ แอนเดอร์สัน
    • Isabela Merced รับบท ดีน่า (คู่รักของเอลลี่)
    • Gabriel Luna รับบท ทอมมี่ มิลเลอร์ (น้องชายของโจเอล)
    • Rutina Wesley รับบท มาเรีย (ภรรยาของทอมมี่)

เรื่องย่อ

ซีซั่น 2 ดำเนินเรื่องต่อจากซีซั่นแรกโดยมีระยะเวลาผ่านไป 5 ปี โจเอล (Pedro Pascal) และเอลลี่ (Bella Ramsey) อาศัยอยู่ในชุมชน Jackson ที่ปลอดภัย แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มสั่นคลอนเมื่อความลับในอดีตถูกเปิดเผย

ในขณะเดียวกัน แอบบี้ (Kaitlyn Dever) ทหารหญิงจากกลุ่ม Fireflies ได้ออกตามล่าโจเอลเพื่อแก้แค้นให้กับการตายของพ่อเธอ นำไปสู่เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเอลลี่อย่างถาวร

รีวิว

ซีซั่น 2 ของ “The Last of Us” ยังคงรักษาความเข้มข้นและความลึกซึ้งของเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม การแสดงของ Bella Ramsey ในบทเอลลี่ที่เติบโตขึ้นและต้องเผชิญกับความสูญเสียและความโกรธแค้น ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความสับสนของตัวละครได้อย่างชัดเจน 

การแนะนำตัวละครใหม่อย่างแอบบี้ ที่มีแรงจูงใจและความเชื่อของตัวเอง ทำให้เรื่องราวมีมิติและความซับซ้อนมากขึ้น การเผชิญหน้าระหว่างเอลลี่และแอบบี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมและการแก้แค้น

ซีรีส์ยังคงรักษาความสมจริงของโลกหลังวันสิ้นโลกได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในด้านการออกแบบฉาก การแต่งหน้า และการสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียด