รีวิวหนัง Bridget Jones Mad About the Boy (2025) บริดเจ็ท โจนส์ หลงหนุ่มหนักมาก

รีวิวหนัง Bridget Jones Mad About the Boy (2025) บริดเจ็ท โจนส์ หลงหนุ่มหนักมาก
รีวิวหนัง Bridget Jones Mad About the Boy (2025) บริดเจ็ท โจนส์ หลงหนุ่มหนักมาก
  • ชื่อหนัง: Bridget Jones: Mad About the Boy
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
  • ผู้กำกับ: Michael Morris
  • ความยาว: 125 นาที
  • วันเข้าฉาย: 14 กุมภาพันธ์ 2025
  • คะแนน IMDb: 7.1/10
  • นักแสดง:
    • Renée Zellweger รับบท Bridget Jones
    • Hugh Grant รับบท Daniel Cleaver
    • Chiwetel Ejiofor รับบท Scott Wallaker
    • Leo Woodall รับบท Roxster
    • Emma Thompson รับบท Dr. Rawlings
    • Jim Broadbent รับบท Colin Jones

เรื่องย่อ

หลังจากการสูญเสียสามีสุดที่รัก Mark Darcy ไปเมื่อสี่ปีก่อน Bridget Jones (Renée Zellweger) ต้องรับบทบาทเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกสองคนคือ Billy วัย 9 ขวบ และ Mabel วัย 4 ขวบ ด้วยการสนับสนุนจากเพื่อนสนิทและครอบครัว เธอตัดสินใจกลับมาทำงานและลองใช้แอปหาคู่ ทำให้ได้พบกับ Roxster (Leo Woodall) หนุ่มอายุน้อยกว่าที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตรักของเธอ ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้สร้างความสัมพันธ์กับ Scott Wallaker (Chiwetel Ejiofor) ครูวิทยาศาสตร์ของลูกชาย Bridget ต้องเผชิญกับความท้าทายในการบาลานซ์ชีวิตการทำงาน การเป็นแม่ และการหาความรักครั้งใหม่

รีวิว

Bridget Jones: Mad About the Boy เป็นการกลับมาของตัวละครที่หลายคนรัก โดยในภาคนี้เราได้เห็น Bridget ในบทบาทใหม่ของการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเผชิญกับความท้าทายของชีวิตในวัย 50 Renée Zellweger ยังคงนำเสน่ห์และความเป็นธรรมชาติของ Bridget ได้อย่างยอดเยี่ยม การแสดงของเธอทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงและเอาใจช่วยตลอดเรื่อง นอกจาก Zellweger แล้ว Hugh Grant ในบท Daniel Cleaver และ Chiwetel Ejiofor ในบท Scott Wallaker ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เสริมสร้างมิติให้กับเรื่องราว

ภาพยนตร์สามารถสร้างสมดุลระหว่างความขบขันและความซาบซึ้งได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ชมทั้งหัวเราะและน้ำตาซึมไปพร้อมกัน เรื่องราวของ Bridget ในการก้าวผ่านความสูญเสียและการเปิดใจรับความรักครั้งใหม่ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม

Bridget Jones: Mad About the Boy เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอการเดินทางของผู้หญิงคนหนึ่งในการค้นหาความสุขและความรักหลังจากการสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและการเล่าเรื่องที่ซาบซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมทั้งหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมกัน เป็นการปิดฉากที่สมบูรณ์แบบสำหรับซีรีส์ที่คนทั่วโลกรัก