รีวิวหนัง Ralph Breaks the Internet (2018) ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต

รีวิวหนัง Ralph Breaks the Internet (2018) ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต
รีวิวหนัง Ralph Breaks the Internet (2018) ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต
  • ชื่อหนัง: Ralph Breaks the Internet (ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต)
  • ปีที่ฉาย: 2018
  • หมวดหมู่: แอนิเมชัน / ผจญภัย / คอมเมดี้
  • ผู้กำกับ: Rich Moore, Phil Johnston
  • ความยาว: 112 นาที
  • วันเข้าฉาย: 21 พฤศจิกายน 2018 (สหรัฐอเมริกา), 29 พฤศจิกายน 2018 (ไทย)
  • คะแนน IMDb: 7.0/10
  • นักแสดง (ให้เสียงพากย์):
    • John C. Reilly รับบท Ralph
    • Sarah Silverman รับบท Vanellope
    • Gal Gadot รับบท Shank
    • Taraji P. Henson รับบท Yesss

เรื่องย่อ

หลังจากการผจญภัยในภาคแรก Ralph (ราล์ฟ) และ Vanellope (วาเนลโลปี้) ยังคงใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานในเกมตู้ของพวกเขา แต่เมื่อพวงมาลัยของเกม Sugar Rush พังและร้านเกมอาร์เคดไม่มีอะไหล่สำรอง ทั้งสองต้องหาทางช่วยกันหาอะไหล่มาแทน ซึ่งนำพวกเขาเข้าสู่โลกใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยพบเจอ – โลกของอินเทอร์เน็ต

ภายในอินเทอร์เน็ต ราล์ฟและวาเนลโลปี้ได้พบกับตัวละครมากมาย เช่น Shank นักแข่งสุดเท่จากเกมออนไลน์ Slaughter Race และ Yesss AI อัจฉริยะของเว็บไซต์วิดีโอสุดฮิต BuzzzTube ระหว่างการเดินทางนี้ วาเนลโลปี้เริ่มค้นพบว่าตัวเองอาจต้องการชีวิตที่ต่างออกไปจากเดิม ขณะที่ราล์ฟต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา นั่นคือการสูญเสียเพื่อนรักไป

รีวิว

Ralph Breaks the Internet นำเสนอเรื่องราวของมิตรภาพและการเติบโตของตัวละคร โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ การปล่อยวางและการยอมรับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่อง แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ได้เข้มข้นมากนัก แต่ก็มีความหมายลึกซึ้งที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ต้องเติบโตไปในทิศทางที่แตกต่างกัน

หนึ่งในจุดเด่นของหนังคือการสร้าง ภาพจำลองของอินเทอร์เน็ต ที่เต็มไปด้วยสีสันและไอเดียสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ดัง ๆ อย่าง Google, eBay, YouTube (BuzzzTube) หรือการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต เช่น ไวรัลวิดีโอ, โฆษณาแบนเนอร์, การคอมเมนต์ และ Dark Web

ส่วนคุณภาพแอนิเมชันของ Disney ยังคงโดดเด่น การออกแบบโลกอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยรายละเอียด การเคลื่อนไหวของตัวละครเป็นธรรมชาติ และฉากการแข่งขันใน Slaughter Race ก็น่าตื่นเต้น

Ralph Breaks the Internet เป็นแอนิเมชันที่ให้ทั้งความสนุกและข้อคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ การเติบโต และการก้าวข้ามความกลัวในใจ ภาพยนตร์นำเสนอโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างสร้างสรรค์และมีอารมณ์ขันที่ทำให้ผู้ชมทุกวัยสนุกไปกับมัน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นภาคต่อที่เหนือกว่าภาคแรก แต่ก็ยังเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงและเต็มไปด้วยความอบอุ่น