รีวิวหนัง Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ

รีวิวหนัง Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ
รีวิวหนัง Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ
  • ชื่อหนัง: Venom: The Last Dance (เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ)
  • ปีที่ฉาย: 2024
  • หมวดหมู่: ซูเปอร์ฮีโร่, แอ็กชัน, ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: เคลลี มาร์เซล (Kelly Marcel)
  • ความยาว: 109 นาที
  • วันเข้าฉาย: 25 ตุลาคม 2024 (สหรัฐอเมริกา)
  • คะแนน IMDb: 6.0/10
  • นักแสดง:
    • ทอม ฮาร์ดี (Tom Hardy) รับบท เอ็ดดี บร็อก / เวน่อม
    • ชิวีเทล เอจิโอฟอร์ (Chiwetel Ejiofor) รับบท เร็กซ์ สตริกแลนด์
    • จูโน เทมเปิล (Juno Temple) รับบท ดร. เท็ดดี เพน
    • รีส อีฟานส์ (Rhys Ifans) รับบท มาร์ติน

เรื่องย่อ

ใน Venom: The Last Dance เอ็ดดี บร็อก (Tom Hardy) และ เวน่อม ยังคงหลบซ่อนตัวหลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อน แต่ครั้งนี้ พวกเขากลายเป็นเป้าหมายของหน่วยลับทางการทหาร ที่นำโดย เร็กซ์ สตริกแลนด์ (Chiwetel Ejiofor) ซึ่งต้องการจับตัวเวน่อมเพื่อนำไปศึกษา ขณะเดียวกัน ศัตรูใหม่จากเผ่าพันธุ์ ซิมไบโอต ที่อันตรายกว่าเดิมได้เดินทางมาถึงโลก พร้อมแผนการที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

เมื่อเอ็ดดีและเวน่อมต้องเผชิญทั้งภัยคุกคามจากมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ถูกทดสอบอย่างหนัก เอ็ดดีเริ่มสงสัยว่าการอยู่ร่วมกับเวน่อมอาจเป็นอันตรายเกินไป และอาจถึงเวลาที่พวกเขาต้องแยกจากกัน ในขณะที่เวน่อมต้องเลือกว่าจะต่อสู้เพื่อปกป้องโลกหรือกลับไปยังดวงดาวบ้านเกิด

ในมหาศึกครั้งสุดท้ายนี้ พวกเขาจะสามารถเอาชนะศัตรูที่ทรงพลังที่สุดที่เคยเผชิญได้หรือไม่? หรือ นี่จะเป็นจุดจบของเวน่อมและเอ็ดดีตลอดกาล?

รีวิว

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคสุดท้ายในไตรภาค “Venom” ที่นำแสดงโดยทอม ฮาร์ดี ซึ่งยังคงนำเสนอความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างเอ็ดดีและเวน่อม อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ได้รับความเห็นที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ โดยมีคะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์เพียง 39% จาก 64 รายบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes

แม้ว่าการแสดงของทอม ฮาร์ดีจะยังคงได้รับคำชม แต่บทภาพยนตร์และการดำเนินเรื่องกลับถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นหรือความแปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้

โดยสรุป “Venom: The Last Dance” เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับแฟน ๆ ของเวน่อมที่ต้องการติดตามบทสรุปของเรื่องราว แต่สำหรับผู้ชมทั่วไป อาจรู้สึกว่าภาพยนตร์ขาดความน่าสนใจในบางส่วน