รีวิวหนัง Jurassic World Rebirth จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่ (2025)

รีวิวหนัง Jurassic World Rebirth จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่ (2025)
  • ชื่อหนัง: Jurassic World: Rebirth
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • ผู้กำกับ: Gareth Edwards
  • ผู้เขียนบท: David Koepp
  • ความยาว: 133 นาที
  • วันเข้าฉาย: 2 กรกฎาคม 2025 (สหรัฐฯ)
  • คะแนน IMDb: – (ยังไม่อัปเดตคะแนนรวม), ได้เสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และแฟนๆ ว่า “กลับมาได้ดี”
  • นักแสดงนำ:
    • Scarlett Johansson รับบท Zora Bennett
    • Mahershala Ali รับบท Duncan Kincaid
    • Jonathan Bailey รับบท Dr. Henry Loomis
    • Rupert Friend, Manuel Garcia‑Rulfo และ Luna Blaise

เรื่องย่อ

“คืนชีพความตื่นเต้นแบบคลาสสิก บนเกาะลับที่มีไดโนเสาร์ผสมพันธุ์พันธุกรรม”
ห้าปีหลังจากเหตุการณ์ใน Domination ทีมงานนำโดย Zora Bennet บุกเกาะ Saint‑Hubert ลับสุดยอดเพื่อเก็บไบโอมาตรังของไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหญ่ ได้แก่ Mosasaurus, Titanosaurus และ Quetzalcoatlus ที่อาจมีพลังรักษาโรคร้าย แต่กลับพบว่าที่นั่นมีการทดลองพันธุ์ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ เช่น Distortus rex และ Mutadon อยู่มากมาย ในระหว่างปฏิบัติภารกิจ พวกเขายังช่วยครอบครัวผู้ประสบภัยจากเรืออับปาง ทำให้ต้องเผชิญทั้งความโหดร้ายของธรรมชาติ และโครงสร้างอำนาจที่ตั้งใจใช้พลังไดโนเสาร์เพื่อประโยชน์ทางเภสัชกรรม

รีวิว

“Jurassic World: Rebirth เป็น soft‑reboot ที่เน้นความคาดหวังสูง เพื่อฟื้นคืนเวทมนตร์คลาสสิกจาก Jurassic Park พร้อมบดขยี้แฟนหนังรุ่นเก่าได้สำเร็จ ในฐานะผู้กำกับ Gareth Edwards สร้างฉากแอ็กชันระดับบล็อกบัสเตอร์ด้วยภาพถ่ายฟิล์ม 35 มม. และดนตรีคลาสสิกโดย Alexandre Desplat ดึงความรู้สึก nostalgia ได้อย่างน่าประทับใจ

จุดแข็งที่ชัดคือฉากภาพสวยสมจริง (เช่นซากเรือกลางน้ำ แอ่งน้ำบนฝั่ง ภาพเงาสะท้อนดวงอาทิตย์) อย่างไรก็ตาม หนังติดขัดที่พล็อต “ดินแดนลับ” ถูกสลับกับฉากครอบครัวบนเรืออับปางที่ขัดจังหวะความตึงเครียด บางวิจารณ์มองว่าครอบครัวนั้นแทบไม่จำเป็น

Jurassic World: Rebirth ไม่ใช่การปฏิวัติแนวสยองขวัญหรือนวัตกรรมเรื่องใหม่ แต่เป็นการคืนชีพแฟรนไชส์ด้วยสไตล์ที่มีหัวใจ และปรับโครงเรื่องให้กระชับ เหมาะกับผู้ที่คิดถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมของ Jurassic Park ถึงจะมีข้อติอยู่บ้าง แต่แฟน ๆ หลายคนยอมรับว่ามัน “สนุกกว่าภาค Dominion แทบทุกด้าน”