รีวิวหนัง 28 Years Later 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน (2025)

 รีวิวหนัง 28 Years Later 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน (2025)
  • ชื่อหนัง: 28 Years Later (ชื่อไทย: 28 ปีให้หลัง…เชื้อเขมือบคน)
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: Horror / Zombie / Post‑Apocalyptic / Coming‑of‑Age
  • ผู้กำกับ: Danny Boyle
  • ความยาว: 115 นาที 
  • วันเข้าฉาย: 20 มิถุนายน 2025 สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และแคนาดา
  • คะแนน IMDb: 7.1/10
  • นักแสดง:
    • Jodie Comer รับบท Isla
    • Aaron Taylor-Johnson รับบท Jamie
    • Alfie Williams สร้างชื่อในบท Spike (เด็ก 12 ปี)
    • Ralph Fiennes รับบท Dr. Ian Kelson
      (ตัวละครอื่น ๆ และเครดิตผู้กำกับย่อยเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก official sources)

เรื่องย่อ

เกือบสามสิบปีหลังเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Rage Virus จาก 28 Days Later การใช้ชีวิตของมนุษย์บนเกาะ Lindisfarne กลายเป็นสังคมกึ่งยุคกลาง ผู้รอดชีวิตต้องปลูกผัก ยิงธนูกิน และหลบซอมบี้ในทุกๆ วัน เมื่อ Isla (Jodie Comer) ป่วยหนักจากโรคร้าย Jamie ตัดสินใจพาลูกชาย Spike (Alfie Williams) เดินทางข้ามสะพานไปยังแผ่นดินใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ ทั้ง fast และ slow zombies เพื่อหวังจะพบหมอที่อาจรักษาเขาได้ ในระหว่างทางพวกเขาเผชิญกับความโกลาหล ความสูญเสีย และพบกับ Dr. Ian Kelson (Ralph Fiennes) ที่ให้บทสนทนาปรัชญาเรื่องความตายและการจดจำ ผ่านมุมมองของเด็กที่กำลังเติบโตในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างไม่อาจย้อนกลับ

รีวิว

28 Years Later คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ Danny Boyle และ Alex Garland หลังเวอร์ชันสุดคลาสสิก โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เลือกเดินทางเข้าไปในหัวใจของความสูญเสียผ่านเลนส์ของ coming-of-age มากกว่าการสะสมฉากระเบิดหรือซอมบี้ล่าเลือดเพียงอย่างเดียว แม้หนังจะขาด intensity แบบต้นฉบับ แต่กลับชดเชยด้วย น้ำหนักทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง อย่างซีนนักแสดงซึมเมื่อ Isla อำลาลูก หรือบทพูดของ Dr. Kelson เกี่ยวกับความตายที่มี “หลายรูปแบบ และบางอันดีกว่าคนอื่น”

ภาพและสไตล์การถ่ายทำใช้ iPhone 15 Max บวกกับกล้อง drone และมุมกล้องแบบเขย่า ทำให้ได้ภาพ chaotic สูบฉีด adrenaline แต่ก็ทำให้บางฉากดูรบกวนสายตาและขาด coherence เสี่ยงต่อเรื่องที่ “ขาดจังหวะ” แม้สื่อหลายแห่งชมว่ามันให้สัมผัส “สวย สยอง และแปลกใหม่” แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนังพยายามเป็นมากกว่าแค่หนัง zombie 

การแสดงของ Alfie Williams ในบท Spike ถือเป็น breakout performance เด็กที่ต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ในโลกที่ไร้ความหวัง ขณะที่ Jodie Comer และ Aaron Taylor‑Johnson ถ่ายทอดความสัมพันธ์พ่อลูกที่ตึงเครียดและอบอุ่น พร้อม Ralph Fiennes ที่ปรากฏเพียงสั้นแต่ทิ้งข้อความให้คนดูกลับไปนึกถึงมุมปรัชญาเรื่องชีวิตและความทรงจำ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง