รีวิวหนัง 11 Rebels (2024)

รีวิวหนัง 11 Rebels (2024)
  • ชื่อหนัง: 11 Rebels (ญี่ปุ่น: 十一人の賊軍)
  • ปีที่ฉาย: 2024
  • หมวดหมู่: แอ็คชั่น, ดราม่า, ประวัติศาสตร์ (Period Samurai Action) 
  • ผู้กำกับ: Kazuya Shiraishi 
  • ความยาว: ประมาณ 2 ชั่วโมง 3 นาที
  • วันเข้าฉาย:
  • รอบปฐมทัศน์ที่ Tokyo International Film Festival วันที่ 28 ตุลาคม 2024 
  • เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 
  • คะแนน IMDb: 6.2/10
  • นักแสดง:
    • Takayuki Yamada (รับบท Masa)
    • Taiga Nakano (รับบท Heishiro Washio)
    • Ukon Onoe
    • Riho Sayashi
    • Takara Sakumoto
    • Seiji Chihara และอีกหลายคน

เรื่องย่อ

ในช่วงสงครามโบชิน (Boshin War) ซึ่งเป็นยุคสู้รบรุนแรงระหว่างฝ่ายราชสำนักใหม่กับกลุ่มชินโอชินโซกุน (Shogunate) คล้ายกับแนวคิดภาพยนตร์ The Dirty Dozen มีการก่อตั้ง “หน่วยสังหารตนตาย” ที่ประกอบด้วยนักโทษประหาร 11 คน ที่ถูกส่งไปปกป้องป้อมปราการบนทางผ่านเขาเพื่อหยุดกองทัพจักรวรรดิ ในสิ่งแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพและอภัยโทษ แต่เมื่อถูกทรยศ และคำสัญญาของผู้ว่าจ้างไม่เป็นไปตามนั้น พวกเขาตระหนักว่าตนเป็นเพียงเครื่องมือในเกมการเมืองที่ใหญ่กว่า ดังนั้น พวกเขาจึงต้องต่อสู้เพื่อกำหนดชะตากรรมของตนเอง—แม้ว่าจะเป็นค่าเสียสละก็ตาม

รีวิว

11 Rebels นับเป็นภาพยนตร์ซามูไรที่ดึงดูดสายตาด้วยการนำเสนอความโหดร้ายแบบไม่ปราณี ในแนวคิดตัวเอกที่ไม่ได้เป็นวีรบุรุษโดยกำเนิด แต่เป็นกลุ่มคนชายขอบที่ถูกบังคับเข้าสู่การต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด โดยเฉพาะเทคนิคการเล่าเรื่องที่สามารถสะท้อนปัญหาสังคมในยุคเปลี่ยนผ่าน เช่น เหยียดชนชั้นและการถูกมองข้ามของคนระดับล่าง 

ฉากบู๊ในภาพยนตร์มีความดิบ เถื่อน และไม่กลัวเลือด—มีการแสดงศิลปะการต่อสู้แบบกองโจรที่รุนแรง คู่อริที่ฝ่ายพระเอกไม่มีทางเลือก ยิ่งฉากต่อสู้โฟกัสที่มุมมองของ Mass (Takayuki Yamada) ผู้ที่ไม่มีทางต่อสู้เก่ง แต่เลือกอยู่รอดในฐานะคนที่ “ขายบริการชีวิต” โดยไม่ลังเล เป็นการกั้นขวางความจงรักภักดีในระบบศักดินาที่ยุคซามูไร… นี่คือจุดที่น่าสนใจที่สุดของหนังเรื่องนี้ 

แม้บางคนจะพบว่าเรื่องราวอาจรู้สึกยืดเยื้อและแอ็คชั่นบางช่วงก็เกิดความซ้ำซาก แต่ตัวละครที่ครบเครื่องและฉากดุดันก็ทำให้ภาพยนตร์ยังคงน่าติดตาม โดยเฉพาะมุมมองต่อติวการ์ดเชิงจิตวิทยาครึ่งหนึ่งของการต่อสู้—ที่ชี้ให้เห็นว่าแม้ผู้กำกับจะใช้แนวทางคลาสสิก แต่ก็สามารถพูดประเด็นสังคมได้อย่างตรงไปตรงมา