รีวิวซีรีส์ Untamed ปมใจในป่าลึก (2025) | Netflix

รีวิวซีรีส์ Untamed ปมใจในป่าลึก (2025) | Netflix
  • ชื่อหนัง: Untamed
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: ดราม่า, อาชญากรรม, ลึกลับ
  • ผู้กำกับ: Thomas Bezucha, Nick Murphy, Neasa Hardiman 
  • ผู้เขียนบท: Mark L. Smith และ Elle Smith 
  • ความยาว: 6 ตอน ตอนละ 42–51 นาที
  • วันเข้าฉาย: 17 กรกฎาคม 2025 (Netflix)
  • คะแนน IMDb: 7.3/10
  • นักแสดง: Eric Bana (Kyle Turner), Sam Neill (Paul Souter), Rosemarie DeWitt (Jill Bodwin), Lily Santiago (Naya Vasquez), Wilson Bethel (Shane Maguire), William S. Smillie, Raoul Trujillo และทีมสนับสนุนอีกมากมาย

เรื่องย่อ

ในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี เจ้าหน้าที่พิเศษ ไคล์ เทอร์เนอร์ (Eric Bana) จากหน่วย Investigative Services Branch ของ National Park Service ถูกเรียกตัวไปตรวจสอบศพหญิงสาวที่ตกมาจากหน้าผา El Capitan เหตุการณ์นี้ไม่ได้ดูเหมือนอุบัติเหตุ เพราะเมื่อสังเกตดีๆ จะพบร่องรอยของกระสุนปืนที่ขาของหญิงลึกลับคนนี้ ซึ่งภายหลังได้รับการยืนยันชื่อว่า “ลูซี่ คุก” หญิงสาวที่สูญหายจากอุทยานเมื่อหลายปีก่อน

ในขณะที่เทอร์เนอร์ร่วมมือกับ Lily Santiago พนักงานอุทยานหน้าใหม่ ความลับในอาคารเจ้าหน้าที่รวมถึงกลุ่มคนค้างแรมที่ไม่ลงทะเบียนกลายเป็นเงื่อนงำน่าสงสัย การสืบสวนพาผู้ชมดำดิ่งสู่ปัญหาคอร์รัปชัน, คดีสูญหายในอดีต และมรดกทางจิตใจของเทอร์เนอร์เอง ซึ่งยังคงถูกหลอกหลอนจากความสูญเสียในครอบครัว

รีวิว

Untamed เป็นซีรีส์สืบสวนที่จับเอาความเงียบสงัดและความงดงามของโยเซมิตีมาผสมผสานกับโครงเรื่องฆาตกรรมเข้มข้นอย่างน่าทึ่ง บทเปิดเรื่องที่มีศพโหนห้อยกลางหน้าผาโดดเด่นด้วยซีน “ช็อกตั้งแต่เริ่มตอน” พร้อมฉากถ่ายทำที่สมจริงจนเสียวสันหลัง ความกลมกล่อมของธรรมชาติไม่ได้แค่ทำหน้าที่เป็นฉากหลัง แต่กลายเป็น “ตัวละคร” สำคัญที่ทำให้สายสืบวิ่งไม่หยุดจนจบซีซัน 

การแสดงของ Eric Bana ในบทเทอร์เนอร์ถ่ายทอดความเป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีบาดแผลลึกจากอดีตเสียใจ และถึงแม้จะคล้าย “นักสืบสายดาร์ก” แบบเดิมๆ แต่เขากลับเติมจังหวะที่รู้สึกจริงจังและมีน้ำหนักทุกฉาก ด้าน Lily Santiago ในบทวาสเกซ ให้สัมผัสถึงความกล้าและความมุ่งมั่นที่ทรงพลังในบทผู้ช่วยสาวผู้มาใหม่ ทั้งคู่เสริมเคมีของกันและกันได้ค่อนข้างดี

อย่างไรก็ตาม แม้บางฉากจะใช้สูตรเดิม เช่น เจ้าหน้าที่ที่เสพเหล้าเริ่มรื้อฟื้นบาดแผลส่วนตัว หรือชะตากรรมของคนหายสไตล์ True Detective ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าบทสรุปเก็บทุกประเด็นได้เร็วเกินไป แทนที่จะทิ้งให้ค้างคาอย่างงงเต็ก แต่โดยรวมซีรีส์ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะใครที่ชอบสไตล์ ธรรมชาติ+True Crime และภาพสวย