รีวิวซีรีส์ The Queen Who Crowns ตำนานราชินีวอนกยอง (2025)

รีวิวซีรีส์ The Queen Who Crowns ตำนานราชินีวอนกยอง (2025)
  • ชื่อซีรีส์: The Queen Who Crowns (원경 / Wongyeong)
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่/แนว: Period drama, Melodrama, Romance (ซีรีส์ย้อนยุค ดราม่า เมโลดราม่า โรแมนซ์)
  • ผู้กำกับ: Kim Sang-ho 
  • ความยาว: ตอนละประมาณ 60 นาที, จำนวนทั้งหมด 12 ตอน 
  • วันเข้าฉาย: ออกอากาศทาง TVING และ tvN ตั้งแต่ 6 มกราคม ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2025 (ทุกวันจันทร์–อังคาร เวลา 14:00 น. ทาง TVING และ 20:50 น. ทาง tvN)
  • คะแนน IMDb: 7.7/10
  • นักแสดงนำ:
    • Cha Joo-young เป็น Queen Wongyeong
    • Lee Hyun-wook เป็น Lee Bang-won (King Taejong)
    • Lee Yi-dam เป็น Chae-ryeong (สาวใช้ของราชินี)
    • Lee Si-a เป็น Yeong-sil (หนึ่งในสนมที่ตั้งครรภ์กับพระราชา)

เรื่องย่อ

ในช่วงปลายยุคราชวงศ์โกเรีย ซีรีส์เล่าเรื่องชีวิตของ Queen Wongyeong (ชาจูยอง) ผู้เติบโตและมีนโยบายอยากเห็นโลกใหม่ เธอแต่งงานกับ เจ้าชายอีบังวอน (ลีฮยอนอุค) และทำหน้าที่เป็นคนเบื้องหลังช่วยให้เขาผงาดขึ้นเป็นกษัตริย์ที่ 3 แห่งโชซอน (King Taejong)—สิ่งที่มีน้อยคนจะมีอำนาจเทียบเท่าในยุคนั้น 

หลังขึ้นครองราชย์ อีบังวอนเริ่มมีสนมมากมาย ทำให้วอนกยองรู้สึกเจ็บช้ำ—ความสัมพันธ์ที่เคยเชื่อใจกันกลับสั่นคลอน เธอจึงต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองในวังหลวงอันเย็นช้าและเต็มไปด้วยเกมการเมืองที่ซับซ้อน

รีวิว

The Queen Who Crowns ถือเป็นซีรีส์ที่สะท้อนเสน่ห์ของยุคสมัย โชซอนยุคแรก ได้อย่างลึกซึ้งและทรงพลัง ตัวละคร วอนกยอง ถูกสวมบทบาทโดย Cha Joo-young ได้อย่างชาญฉลาด—เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความงดงามในสายตา แม้จะต้องเผชิญความเจ็บปวดส่วนตัวและแรงกดดันจากระบบอำนาจ เธอก็ยังคงยืนหยัดเป็น ‘ผู้ร่วมสร้างอาณาจักร’ มากกว่าคนที่ยอมตามชายบนบัลลังก์เท่านั้น 

การเล่าเรื่องมีความเข้มข้นทั้งด้านอารมณ์และการเมือง—นำเสนอภาพวังแห่งอำนาจ สงครามระหว่างความรักและภาระหน้าที่ และการทรยศที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่า “พันธสัญญา” ในความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส ซีรีส์กล้าพูดถึงความขัดแย้งภายในว่าที่ราชินีที่ไม่ยอมตกเป็นรองใคร แม้จะตกในสถานะที่ “ไร้ตัวตน” ตามประวัติศาสตร์

เวอร์ชัน—tvN (PG‑15) และ TVING (มีบางฉาก 19+)—เพิ่มเลเยอร์ให้กับซีรีส์ในแง่การตีความและความสมจริงของความสัมพันธ์ การเปิดเผยตัวละคร และความใกล้ชิดของฉากที่ไม่ถูกเซนเซอร์ ทำให้ผู้ชมทั่วไปและสายผู้ใหญ่ต่างก็มีทางเลือกในการติดตามเรื่องราวได้ตามใจชอบ 

โดยสรุป ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของอำนาจและรัก แต่คือเรื่องราวของผู้หญิงที่ท้าทายระบบ และพร้อมจะไม่ถูกลดทอนด้วยน้ำเสียงใดๆ—หากคุณชื่นชอบซีรีส์ย้อนยุคที่มีความซับซ้อนและตัวเอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างสมบูรณ์ครับ