รีวิวซีรีส์ MONSTER- The Ed Gein Story ปีศาจ เรื่องราวของเอ็ด กีน (2025)

รีวิวซีรีส์ MONSTER- The Ed Gein Story ปีศาจ เรื่องราวของเอ็ด กีน (2025)
  • ชื่อหนัง: Monster: The Ed Gein Story
  • ปีที่ฉาย: 2025
  • หมวดหมู่: ดราม่า / อาชญากรรม / ชีวประวัติ
  • ผู้กำกับ: (ซีรีส์โดย Ian Brennan ร่วมกับผู้กำกับหลายคน) 
  • ความยาว: 8 ตอน (ฉายพร้อมกัน) 
  • วันเข้าฉาย: 3 ตุลาคม 2025 
  • คะแนน IMDb: 7.8/10
  • นักแสดง:
    • Charlie Hunnam รับบท Ed Gein 
    • Laurie Metcalf รับบท Augusta Gein (แม่นาย Ed Gein) 
    • Suzanna Son รับบท Adeline Watkins 
    • Tom Hollander รับบท Alfred Hitchcock 
    • Lesley Manville, Vicky Krieps, Addison Rae และนักแสดงสมทบอีกหลายคน 

เรื่องย่อ

ในชนบทอันโดดเดี่ยวของรัฐวิสคอนซินช่วงทศวรรษ 1950 เอ็ด เกน ดูเหมือนเป็นคนเก็บตัวและมีชีวิตเรียบง่ายบนฟาร์ม แต่เบื้องหลังบ้านไร่ที่ทรุดโทรมกลับซ่อน “บ้านแห่งความสยอง” ที่เต็มไปด้วยโครงกระดูก การรื้อหลุมศพ และสิ่งประดิษฐ์จากเศษชิ้นส่วนมนุษย์ เมื่อการสืบสวนเริ่มเปิดเผยความจริงที่โหดร้าย เกนถูกเปิดตัวเป็นฆาตกรผู้บ้าและผู้รื้อศพ เรื่องราวพาเราลงลึกถึงจิตวิปลาสของเขา — ความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับแม่ผู้มีอำนาจ Augusta, ความโดดเดี่ยวทางจิตใจ และแรงจูงใจเบื้องหลังการกระทำที่ทำให้เขากลายเป็นต้นแบบ “สัตว์ประหลาด” ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับตำนานหนังสยองขวัญในฮอลลีวูดหลายเรื่อง 

ซีรีส์ยังนำเสนอเรื่องเล่าจากมุมมองผู้คนรอบตัว — บาดแผลของเหยื่อ บทบาทของสื่อ และการตั้งคำถามว่าใครคือผู้ที่สร้าง “สัตว์ประหลาด” ขึ้น — พร้อมกับเชื่อมโยงว่าผลงานอาชญากรรมของเกนส่งอิทธิพลอย่างไรต่อภาพยนตร์สยองขวัญในวัฒนธรรมอเมริกัน

รีวิว

Monster: The Ed Gein Story เป็นการผสมผสานระหว่างชีวประวัติและงานละครจิตวิทยาที่มืดมน ได้จุดเด่นจาก การแสดงของ Charlie Hunnam ที่ทุ่มเทในการสวมบทบาทเป็นองค์ประกอบมนุษย์ที่บิดเบี้ยว — เขาพยายามนำเสนอตัวละครไม่ใช่ในฐานะมีเพียงความโหดร้าย แต่เป็นมนุษย์ที่แตกสลายจากปมในใจและแรงกดดันรอบตัว 

จุดแข็งอีกประการคือการกำกับและบรรยากาศที่ถ่ายทอดความรู้สึกหวาดกลัวได้อย่างมีชั้นเชิง — มุมมองของกล้องที่ใช้เสียงเงียบ, เงามืด, และภาพบ้านไร่ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความทรุดโทรมเพิ่มความอึดอัดใจให้ผู้ชม ตลอดจนการโยงเรื่องกับอิทธิพลของเหตุการณ์จริงต่อสังคมและวัฒนธรรมสมัยใหม่ 

อย่างไรก็ตาม ซีรีส์อาจมีจุดอ่อนในบางประเด็น — เช่น การเรียบเรียงเรื่องราวที่บางครั้งอาศัยการเติมแต่ง (dramatic liberties) มากกว่าความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ และการเปิดเผยเบื้องหลังบางฉากที่อาจคาดเดาได้ จากการตีความเพื่อเพิ่มความตึงเครียด และสำหรับผู้ชมที่คาดหวังความสมจริงทุกจุดอาจรู้สึกว่ามีองค์ประกอบ “เหนือจริง” ผสมอยู่บ้าง 

โดยรวม Monster: The Ed Gein Story เป็นผลงานที่ท้าทายและชวนให้ตั้งคำถาม — ไม่ใช่แค่ “ผู้ร้ายเป็นอย่างไร” แต่ “สังคม สื่อ และความอยากรู้ของมนุษย์” มีส่วนผลักดันให้เรื่องราวแบบนี้ถูกผลิตซ้ำและถูกบิดเบือนไปอย่างไรบ้าง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รีวิวซีรีส์ Genie, Make a Wish จีนี่ ปาฏิหาริย์รักซ่อนกล (2025)
รีวิวหนังใหม่ The Shadow’s Edge แผนระห่ำ ใหญ่ฟัดเดือด (2025)
รีวิวซีรีส์ Bon Appétit, Your Majesty เมนูรักพิชิตใจราชา (2025) | Netflix
รีวิวซีรีส์ Twelve (2025) | นำแสดงโดย มาดงซอกและพัคฮยองชิก
รีวิวหนัง Night Always Comes คืนวันอันตราย (2025) | Netflix
รีวิวหนัง Umjolo There Is No Cure (2025)