รีวิวหนัง Tron Legacy (2010) ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต

รีวิวหนัง Tron Legacy (2010) ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต
รีวิวหนัง Tron Legacy (2010) ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต
  • ชื่อหนัง: Tron: Legacy (ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต)
  • ปีที่ฉาย: 2010
  • หมวดหมู่: แอ็กชัน, ผจญภัย, ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: โจเซฟ โคซินสกี้
  • ความยาว: 127 นาที
  • วันเข้าฉาย: 17 ธันวาคม 2010 (สหรัฐอเมริกา)
  • คะแนน IMDb: 6.8/10
  • นักแสดง:
    • การ์เร็ต เฮดลันด์ รับบท แซม ฟลินน์
    • เจฟฟ์ บริดเจส รับบท เควิน ฟลินน์ / คลู
    • โอลิเวีย ไวลด์ รับบท ควอร่า
    • ไมเคิล ชีน รับบท ซูส
    • บรูซ บ็อกซ์ไลท์เนอร์ รับบท อลัน แบรดลีย์ / ทรอน

เรื่องย่อ

แซม ฟลินน์ ชายหนุ่มผู้มีปมในใจจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของพ่อ เควิน ฟลินน์ นักโปรแกรมเมอร์ระดับตำนานแห่งบริษัท ENCOM ได้รับสัญญาณประหลาดจากร้านอาร์เคดเก่าของพ่อ เมื่อเขาตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบ เขากลับถูกดูดเข้าไปในโลกดิจิทัลที่เรียกว่า “กริด” — โลกเสมือนจริงที่พ่อของเขาเคยสร้างไว้

ในกริด แซมได้พบกับ “ควอร่า” ผู้ช่วยลับของพ่อ และเผชิญหน้ากับ “คลู” โปรแกรม AI ที่พ่อสร้างขึ้น แต่กลับทรยศและยึดครองโลกนี้ไว้ แซมต้องร่วมมือกับพ่อเพื่อหาทางออกจากกริดก่อนที่มันจะลุกลามเข้าสู่โลกแห่งความจริง

รีวิว

Tron: Legacy เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่มีจุดเด่นชัดเจนด้าน งานภาพ และ ดนตรีประกอบ มากกว่าเนื้อเรื่อง โทนของเรื่องเต็มไปด้วยความล้ำยุคแบบ “โลกอนาคตในโลกดิจิทัล” ที่แม้จะสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2010 แต่ก็ยังคงดูสดใหม่จนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องคือการดีไซน์ “กริด” ที่เต็มไปด้วยแสงนีออน เส้นสายโครงสร้างเคร่งขรึม และการเคลื่อนไหวของยานพาหนะดิจิทัล โดยเฉพาะ Light Cycle หรือมอเตอร์ไซค์เรืองแสง ที่กลายเป็นไอคอนของภาพยนตร์เรื่องนี้

เจฟฟ์ บริดเจส แสดงได้ยอดเยี่ยมในบทบาทคู่ ทั้งพ่อผู้สงบและคลูผู้น่ากลัว ส่วน การ์เร็ต เฮดลันด์ ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะฮีโร่หน้าใหม่ และ โอลิเวีย ไวลด์ ในบทควอร่า เติมความสดใสและมิติให้กับเรื่องราว

ดนตรีโดย Daft Punk คืออีกหนึ่งองค์ประกอบที่สมควรกล่าวถึงแบบจริงจัง เพราะมันช่วยยกระดับความรู้สึกและบรรยากาศให้ลุ่มลึกและทรงพลัง เสมือนว่าคุณไม่ได้ดูหนัง แต่กำลัง “จมลงไปในโลกของข้อมูล” จริง ๆ

แม้เนื้อเรื่องจะไม่ซับซ้อนมากนัก และมีจังหวะเดินเรื่องที่ช้าในบางช่วง แต่ Tron: Legacy ก็เป็นหนังไซไฟที่ใครหลายคนยกให้เป็น “งานศิลป์บนจอภาพยนตร์” มากกว่าจะเป็นหนังเชิงพาณิชย์ทั่วไป